วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ทำไมชาวพุทธไทย จึงไม่ชอบวัดใหญ่ๆ



แนวทางการสร้างบารมีในพระพุทธศาสนามี 3 แนวทางใหญ่ คือ 

1. เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปพระนิพพานให้มากที่สุด
2. เป็นอนุพุทธะ คือ เกิดมาในยุคที่มีพระพุทธเจ้า แล้วฟังธรรม ปฏิบัติจนหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ ไปนิพพานตามพระพุทธเจ้าไป
3. เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า คือ ตรัสรู้ธรรมด้วยตนเองได้ แต่ไม่ชอบสอนใคร ปลีกวิเวกไปอยู่ป่า ตายแล้วก็เข้านิพพานไปคนเดียว

ทั้งสามแนวทางไปนิพพานทั้งสิ้น แต่แนวทางเป็นพระพุทธเจ้า เกิดประโยชน์ต่อชาวโลกที่สุด

ในโลกพระพุทธศาสนาปัจจุบัน มี 2 นิกายใหญ่ คือ 

1. มหายาน (จีน ไต้หวัน ทิเบต ญี่ปุ่น เกาหลี) นิยมแนวทางเป็นพระพุทธเจ้า ฉะนั้นทุกคน ปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ชอบช่วยเหลือคน สังเกตดูวัดจีนสร้างใหญ่ มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์เต็มไปหมด เวลาเทศน์ชอบให้มีคนฟังเยอะๆ อย่างท่านดาไล ลามะ แห่งทิเบต ท่านซิงหวินต้าซือ แห่งฝอกวงซัน ไต้หวัน เช่าสนามกีฬาจุคนได้หลายหมื่นเพื่อเทศน์ให้คนฟัง และมักไปออกรายการทีวี สัมภาษณ์ ทอล์คโชว์บ่อยๆ มีสาขาทั่วโลก

2. เถรวาท คือ พระพุทธศาสนาแถบเอเชียอาคเนย์ เช่น ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว เขมร นิยมแนวทางอนุพุทธะ ชอบพระธุดงค์ที่แบกกลดเข้าป่า ปลีกวิเวกไม่ยุ่งกับชาวบ้าน ไม่ชอบเทศน์สอน สังเกตดูว่า พระที่คนไทยรู้จักเคารพมากคือ พระวัดป่า เช่น หลวงปู่มั่นธุดงค์กันเกือบตลอดชีวิต มาสร้างวัดก็ในยามบั้นปลายชีวิต คนที่มีโอกาสฟังธรรมจากท่านไม่มาก นานๆ จึงจะได้ยินว่า พระรูปนั้นรูปนี้ปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์เทียบกับมหายาน ชาวพุทธมหายานทุกคนอยากเป็นพระโพธิสัตว์

การฟื้นฟูศีลธรรม (หรืออีกนัย คือการรื้อสัตว์ขนสัตว์ตามแนวทางพระโพธิสัตว์) ก็ปรารถนาให้คนหมู่มากได้ประโยชน์จากคำสอนพระพุทธเจ้า คนมามาก ก็ต้องมีที่รองรับมากๆ  ในสมัยพุทธกาลบางสมัย พระพุทธเจ้าเทศน์มีผู้ฟังแสนโกฏิ (ล้านล้านคน) คิดดูว่าคนมากขนาดนั้น ต้องมีศาลาขนาดไหน มีห้องน้ำกี่ห้อง ต้องจัดอาหารถวายกี่สำรับ ในยุคพุทธกาล วัดพระเชตวันมีเนื้อที่ที่ค้นพบในปัจจุบัน 80 ไร่ อนาถบิณฑิกเศรษฐีซื้อด้วยราคาเท่ากับเหรียญทองที่เอามาปูเต็มพื้นที่ ราคาในปัจจุบันไม่น่าจะน้อยกว่าหมื่นล้าน  แล้วสร้างอาคารด้วยเงินอีกสองเท่าของค่าที่ดิน เป็นวัดที่ใหญ่มาก เวลาพระพุทธเจ้าเสด็จไปไหนมักมีขบวนพระภิกษุติดตามไปมาก ถึง 500 รูป 

ฉะนั้นในภาพของพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนาดั้งเดิมในสมัยพุทธกาล ในเรื่องส่วนตัวพระพุทธเจ้าทรงสมถะ สันโดษ รักความสงบ แต่หากเป็นเรื่องส่วนรวม การเผยแผ่พระพุทธศาสนา สอนคนให้ทำความดี พระพุทธองค์ชอบใหญ่ๆ คนมากๆ ทำให้เอิกเกริก ให้คนกล่าวขานไปทั่วบ้านทั่วเมือง อย่างตอนไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร ก็ทรงวางแผนไปโปรดชฎิล 3 พี่น้องและบริวารพันคนก่อน แล้วเดินทางไปพร้อมกัน ชาวบ้านมากันมืดฟ้ามัวดินเพราะชฎิลมีชื่อเสียงมากในแคว้นมคธ คนก็มารอดูพระพุทธองค์ว่าอาจารย์ของชฏิลหน้าตาเป็นอย่างไร พอไปถึงที่ ก็ทรงให้ชฎิลออกไปหมอบกราบทำความเคารพพระพุทธเจ้าอย่างสูงสุด แล้วแสดงฤทธิ์เหาะให้ชาวบ้านดู และประกาศว่า ท่านนี้เป็นครูของเรา ยังผลให้ชาวเมืองมคธ เลิกดูแคลนพระพุทธเจ้า แล้วตั้งใจฟังธรรมจนมีผู้บรรลุธรรมมากมาย จะเห็นว่า พระองค์ตั้งใจสร้างข่าวใหญ่ก่อนไปเทศน์ แล้วไปอยางยิ่งใหญ่ ก่อนเทศน์ก็ประกาศความยิ่งใหญ่ด้วยการให้ลูกศิษย์แสดงฤทธิ์ก่อน พระองค์ใช้การประชาสัมพันธ์ ใช้ความอลังการ ใช้ความยิ่งใหญ่มาประกอบการเทศน์ ซึ่งได้ผลคือ คนมาฟังมาก คนบรรลุธรรมมาก กษัตริย์ก็ศรัทธาและบรรลุธรรม เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการประกาศพระพุทธศาสนาอย่างได้ผล เป็นรากฐานสำคัญของการการก่อตั้งพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล

นิสัยคนไทยถูกหล่อหลอม ด้วยพระพุทธศาสนาแบบเถรวาทมานับพันปี จึงสร้างค่านิยมว่า วัดต้องเล็กๆ พระต้องปลีกวิเวก พูดน้อยๆ เป็นค่านิยมผูกขาด แล้วเหมารวมว่าพระพุทธศาสนาทั้งมวลต้องเป็นเช่นนี้ แต่ไม่ได้ศึกษาว่า พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติอย่างไร  ซึ่งอย่างที่เล่าให้ฟังว่า เรื่องส่วนตัว ทรงสมถะ สันโดษ แต่เรื่องส่วนรวม ทรงปฏิบัติอย่างยิ่งใหญ่ เอิกเกริก อลังการ หวังให้มีคนมาฟังธรรมมากที่สุด


หอฉันคุณยายฯ วัดพระธรรมกาย