วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หลักวินิจฉัย..ว่าใครคือพุทธเถรวาท

ถามว่า
- ชาวพุทธที่เคารพบูชาเจ้าแม่กวนอิมด้วย เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่ตั้งศาลพระภูมิในบ้าน เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่เชิญพราหมณ์มาประกอบพิธีในวาระโอกาสต่างๆ เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่เคารพบูชาศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่สักยันต์ ดูหมอ ใบ้หวย นับถือกุมารทอง นางกวัก แม่ย่านาง ปลัดขิก บูชาราหู เป็นชาวพุทธเถรวาทหรือไม่
แล้วถ้าตัดชาวพุทธเหล่านี้ออกหมด จะเหลือชาวพุทธไทยถึง 5% หรือไม่

หัวใจของพระพุทธศาสนาคือพระรัตนตรัย

หลักวินิจฉัยว่าใครคือพุทธเถรวาทหรือไม่อยู่ที่
1.เขาเคารพบูชาพระพุทธเจ้าหรือไม่
2.เขาเคารพบูชาพระธรรม  ยอมรับคำสอนในพระไตรปิฎกหรือไม่
3.เขาเคารพพระสงฆ์  ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบหรือไม่
ถ้าเขายึดถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด เขาก็คือพุทธเถรวาท แม้จะเคารพเจ้าพ่อ เจ้าแม่ อื่นๆบ้างก็ตาม

ในครั้งพุทธกาล  เพียงแค่นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์เปล่งวาจาขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ 3 รอบ ก็สำเร็จเป็นพระภิกษุแล้ว แม้ปัจจุบันก็สำเร็จเป็นสามเณร

การถึงไตรสรณคมน์ คือ จุดชี้ขาดความเป็นชาวพุทธเถรวาท  
แม้ภิกษุก็เช่นกัน  ขอเพียงถึงไตรสรณคมน์ และผ่านการอุปสมบทถูกต้องตามพุทธบัญญัติก็เป็นพระภิกษุเถรวาท แม้บางรูปอาจมีสักยันต์บ้าง พระทางเหนือมีห้อยลูกประคำบ้างก็ตาม

หากมัวแต่คิดกีดกันคนที่คิด  เชื่อบางอย่างไม่เหมือนตน  ว่าไม่ใช่พุทธเถรวาท สุดท้ายจะเหลือแต่ตัวเองคนเดียว เพราะคนอื่นๆ ทุกคนจะต้องมีบางประเด็นที่คิดเชื่อต่างจากเราเสมอ ขนาดพระอรหันต์ยังมีบางประเด็นเห็นไม่ตรงกันเลย  ใครไม่เชื่อลองไปเปิดพระวินัยปิฎกแปล(ฉบับ มจร.) เล่ม 7 ข้อ 441 หน้า 382 ว่าด้วยเรื่องสิกขาบทเล็กน้อย ในคราวสังคายนาครั้งที่ 1 ของพระอรหันต์ 500 รูป 

แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง คือ ทางมาแห่งความสามัคคี ความสงบร่มเย็น ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนามาแต่โบราณ

แสวงจุดร่วม ไม่ใช่แสวงจุดต่าง
การแสวงจุดต่าง พยายามแบ่งแยก ถือเขา ถือเรา  คือทางมาแห่งความทะเลาะเบาะแว้ง แตกความสามัคคี  ความเสื่อมของพระพุทธศาสนา




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น