วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

ยอมรับความจริงเสียเถอะ!!!

คนเรานี่ก็แปลก
ด่าเขาข้างเดียวมานานเป็นสิบกว่าปี
พอเขาให้ข้อมูลชี้แจงกลับไปบ้าง
ทำฮึดฮัดมีอารมณ์

นี่เพิ่งจะแค่ 2 -3 วันเอง แค่นี้ยังเล็กน้อย
ถ้าเทียบกับคนที่เขาโดนผู้มีอำนาจปิดปาก
ได้แต่ทนให้เขาด่าว่าอยู่ข้างเดียวมายี่สิบปี

ดูๆ ไปแล้วคงจะไม่เคยโดนใครโต้แย้ง
ด้วยหลักการ เหตุผล ข้อมูลวิชาการ และประสบการณ์จริงมาก่อน
เลยเริ่มยอมรับไม่ได้ว่าข้อมูลของตัวเองไม่ถึง
มีแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่

ขาดการวิจัย ขาดหลักฐานประวัติศาสตร์
ขาดการค้นคว้าเชิงสังคมที่รอบด้าน

เขาคงจะลืมไปว่าโลกใบนี้
ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทย
หลักฐานข้อมูลวิชาการจากประเทศต่างๆ
เดี๋ยวนี้เขาแชร์กันได้ค่อนโลกแล้ว

ลำพังแค่พระไตรปิฎกของเถรวาทด้วยกัน
ที่อยู่นอกประเทศ ยังมีฉบับที่เก่าแก่กว่า
ที่ีประเทศไทยใช้อยู่เลย

เด็กรุ่นหลังที่ได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลวิชาการ
ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ
ลงทุนส่งคนไปเก็บรวบรวมมาจากทั่วโลก
ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน
พอเรียนจบกลับมาแต่ละคน ข้อมูลมันเกินเมืองไทย
เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้จะเอามาโต้ทำไมเท่านั้นเอง

เป็นข้อเตือนใจว่า
1. คนเราเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้
แต่เมื่ออ่านข้อมูลเก่ามากๆ ก็มักจะหลงตัวเองว่ารู้แล้ว
หารู้ไม่ว่าเฉพาะแค่แหล่งข้อมูลอ้างอิง
มันยังมีฉบับเหนือฟ้ายังมีฟ้าเลย
มันยังมีฉบับเก่าก่อนกว่าฉบับเก่าแก่อีกด้วย

2. เฉพาะคำว่า "ธรรมกาย" ในพระไตรปิฎกของเถรวาท
ที่มีอยู่ในประเทศไทย ปรากฏว่าไม่ได้มีหลักฐาน
เฉพาะพระไตรปิฎกฉบับมาตรฐานของมหาวิทยาลัยสงฆ์
แม้แต่พระไตรปิฎกฉบับท้องถิ่น ฉบับล้านนา ฉบับศิลาจารึก
ก็มีจารึกคำว่า "ธรรมกาย" อยู่ในนั้นด้วย

3. คนเราด่าเขาข้างเดียวมานาน
พอจะให้ยอมรับว่าข้อมูลตัวเองไม่ถึง
ก็มักจะโกรธเพราะยอมรับความจริงไม่ได้ว่าตัวเองก็ไม่รู้

---------------------------------------------------------------

๑๘ มีนาคม ๒๕๕๙

๑๘.๓๒ น.

ปล. ข้อคิดจากการนั่งอ่านข้อมูลที่ตอบโต้กัน

.Cr. Ptreetep Chinungkuro

ไม่มีความคิดเห็น: